5 เมืองที่ต้องไปให้ได้ในช่วงฤดูหนาว ส่งท้ายปี 2565

5 เมืองที่ต้องไปให้ได้ในช่วงหน้าหนาว นัดมา พาทัวร์ ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว เมืองสุดแสนน่ารัก และ สวยงามที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน พร้อมทั้งกิจกรรม Winter Festival จะมีเมืองอะไรบ้างไปดูกันเลย
 

1.ชิราคาวาโกะ ประเทศญี่ปุ่น (Shirakawa-go) หมู่บ้านมรดกโลก ของประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาใน เขตจังหวัดกิฟูและโทยาม่า เดิมนั้นหมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวนา  ชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านอายุมากกว่า 250 ปี รูปแบบของทรงบ้านเรือน เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบ “กัสโซซึคุริ”(Gassho-Zukuri) เป็นรูปแบบของการสร้างบ้านเพื่อให้สามารถอยู่กับสภาพอากาศที่เกิดจากธรรมชาติได้ดี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ปัจจุบัน หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม ของประเทศญี่ปุ่น และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย

2.หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศ นอร์เวย์ (Lofoten Archipelago) หมู่เกาะสวรรค์แห่งคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ประเทศนอร์เวย์ โลโฟเทน ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อย ใหญ่มากมาย ได้แก่ Austvågøy, Gimsøya, Vestvågøy, Flakstadøya, และ  Moskenesøya ทุกเกาะเชื่อมต่อกันสามารถเดินทางถึงกันได้ ผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ยังคงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นอกจากนี้โลโฟเทน ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ชมแสงเหนือ ในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย

 

3.ฮัลล์สตัทท์ ประเทศ ออสเตรีย (Hallstatt) หนึ่งในหมู่บ้านริมทะเลสาบอันงดงามที่สวยที่สุดในโลก และมีอายุเก่าแก่ถึง 4,500 ปี ถูกยอมรับให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 1997 เมืองเล็กๆแห่งนี้ต้องมนสะกดนักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยือนไม่ว่าจะเป็นจุดถ่ายรูปอันงดงาม จุดชมวิวทะเลสาบ

4.เรคยาวิก ประเทศ ไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Iceland) เมืองหลวงของประเทศ ไอซ์แลนด์ ถือว่าเป็นจุดแวะพักของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาล่าแสงเหนือ ณ ประเทศไอซ์แลนด์ เมืองแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดแวะพัก แต่ยังเป็นเมืองที่สวยงาม และน่าอยู่อีกด้วย อาคารบ้านเรือสีสัน สไตล์โบราณ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทำให้สถานที่แห่งนี้ดูดีมีมนต์เสน่ห์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยี่ยมชม

 
5.เซอร์แมท ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ (Zermatt) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนเทือกเขาเอลป์ เป็นเมืองที่มีระบบการจากการสิ่งแวดล้อมได้ดีมากเป็นอันดับต้นๆของโลกเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ ไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์แล่นในเมืองซึ่งถือว่าเป็นเหมือง ปลอดมลภาวะ เลยก็ว่าได้ไม่เพียงบริกาศอันบริสุทธิ์ เมืองแห่งนี้ยังเป็นจุดเล่นสกีรีสอร์ท ที่โด่งดัง และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางขึ้นจุดชมวิว ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) อีกด้วย